การดูแลรักษาเสื้อสกรีนให้คงทน

ชวนมาดูเทคนิคการรักษาเสื้อสกรีนให้คงทน ใส่นานยังไงก็ยังสวยกัน

ก่อนอื่นขอเน้นว่า ต้องเลือกหาร้านสกรีนที่ใช้สินค้าในการผลิตคุณภาพดี การผลิตเสื้อด้วยระบบ DTF จะใช้ผงกาว ฟิล์ม หมึก ทั้งหมดสามอย่างเป็นตัวหลัก รวมถึงมีวิธีการรีด ระยะเวลาการอบสีด้วย ดังนั้นทุกขั้นตอนควรทำด้วยความเชี่ยวชาญ ใช้ของคุณภาพดี จะได้ช่วยยืดอายุเสื้อให้ได้นานที่สุด ร้าน Screen168 ใช้สินค้าคุณภาพดีทุกอย่าง ผ่านการรับรองความปลอดภัยจาก OEKO-TEX ECO PASSPORT เลือกสินค้าด้วยวิธีการเทสทำจริง เพื่อทดสอบว่าสินค้าแต่ละชิ้นมีคุณสมบัติเหมาะสมต่อกันและกันไหม จนกระทั่งได้กาว ฟิล์ม หมึก ซึ่งทำงานสอดคล้องกันได้ดี โดยมีวิศวะคอยควบคุมทุกขั้นตอนการทำงาน

เสื้อสกรีนไม่ว่าจะใช้เทคนิค DTF (Direct to Film), ซิลค์สกรีน, หรือ DTG (Direct to Garment) ล้วนมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง ใส่แล้วดูเท่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สัมผัสของเนื้อสกรีนก็มีความเฉพาะตัว แตกต่างกันในแต่ละระบบ ขึ้นกับว่าต้องการเนื้องานแบบไหน

บางคนเจอเสื้อตัวโปรดถูกใจแล้ว แต่หลายครั้งอาจเคยเจอปัญหากวนใจไม่หยุด เช่น ลายหลุด สีซีด หรือแตกลายหลังซักไม่กี่ครั้ง วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีดูแลเสื้อสกรีนอย่างถูกวิธี เพื่อให้เสื้อของคุณใช้ได้นานที่สุดโดยที่สีสกรีนยังสดใหม่ไม่แตกต่างจากเดิมนัก

ก่อนจะแนะนำวิธีดูแล ขอชวนมารู้ก่อนว่าทำไมเสื้อสกรีนถึงเสียสภาพเร็ว นั่นเพราะบางคนอาจจะรักษาเสื้อผิดวิธีทำให้สีเสื่อมไวกว่าที่กำหนด

เริ่มแรกจากซักผิดวิธี : การซักด้วยเครื่องปั่นแรงๆ น้ำร้อน หรือผงซักฟอกที่มีสารเคมีที่ค่อนข้างแรง อาจทำให้หมึกหลุดและเนื้อผ้าสึกหรอได้

อบผ้าและรีดร้อนเกินไป : ความร้อนสูงจากเครื่องอบผ้าหรือเตารีด ทำให้หมึกบนลายพิมพ์ละลายหรือลอกได้ เพราะเวลาอบผ้านั้นจะต้องอยู่ในตู้อบอย่างต่ำก็เป็นชั่วโมง เท่ากับสีสกรีนจะโดนความร้อนนานต่อเนื่อง และไม่ควรใช้เตารีด รีดลงบนลายสีสกรีนตรงๆ

การใช้งานหนักเกินไป : ใส่เสื้อออกกำลังกาย เล่นกีฬาหักโหม หรือโดนเหงื่อมากๆ โดยดูแลแบบผิดวิธี อาจทำให้ลายพิมพ์เสียเร็วได้

ถ้าแบบนั้นก็ขอชวนมาดู 7 วิธีดูแลเสื้อสกรีนให้คงทนเหมือนใหม่ ถ้าทำตามนี้หมด แน่นอนว่าถนอมอายุผ้าและสีได้อีกนานแน่นอน

1. ซักมือดีที่สุด ถ้าทำได้

แค่ขึ้นต้นว่าซักมือก็อาจชวนให้รู้สึกขี้เกียจหน่อยๆ ได้แล้ว แต่รู้ไหมการซักมือช่วยลดแรงเสียดสีที่เกิดจากเครื่องซักผ้า แนะนำให้ใช้มือบีบเบาๆ อย่าขยี้แรงตรงบริเวณลายสกรีนเสื้อมากนัก

ก่อนซักแช่ผ้าประมาณ 5-10 นาทีพอ ไม่ควรแช่นานเกินเหมือนเสื้อยืดเปล่าๆ เพราะน้ำจะซึมเข้าหมึกจนทำให้หมึกหลุดเร็วได้

2. ถ้าซักเครื่อง ต้องกลับด้านเสื้อก่อน

จะให้ซักมือก็คงลำบากเพราะด้วยปัจจัยสมัยนี้ คนก็ไม่ค่อยนิยมซักมือกันแล้ว มาซักเครื่องได้ เพียงแต่อย่าลืมขั้นตอนง่ายๆ ตามนี้

ก่อนโยนเข้าเครื่องซักผ้า อย่าลืม กลับด้านในออกทุกครั้ง เพื่อให้ลายสกรีนสัมผัสกับเสื้อผ้าอื่นให้น้อยที่สุด

ควรใช้โหมดซักถนอม (Delicate หรือ Gentle Mode) ปรับความแรงให้ต่ำสุด และปั่นช้าๆ อย่าปั่นแรงเด็ดขาด เพื่อนถนอมทั้งเส้นใยผ้าและสีสกรีนด้วย

3. ใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง

หลีกเลี่ยงน้ำอุ่นหรือน้ำร้อน เพราะความร้อนจะทำให้กาวหรือหมึกบนเสื้อเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ

การใช้น้ำเย็นช่วยรักษาสีของผ้าและลายเสื้อสกรีนให้สดใหม่

ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงน้ำร้อน หันมาใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้องแทนจะดีที่สุด

4. เลือกผงซักฟอกแบบอ่อนโยน

ใช้ผงซักฟอกสูตรอ่อนโยน (Gentle Detergent) ที่ไม่มีสารฟอกขาวหรือสารกัดสี ผงซักฟอกบางชนิดอาจจะเข้มข้นเกินไปจนทำให้ไปกัดสีสกรีนได้ แม้จะซักสะอาดแต่สารเคมีบนผงซักฟอกอาจทำให้สีไปเร็วกว่าที่คาดคิด

หลีกเลี่ยงการใช้ น้ำยาปรับผ้านุ่มโดยตรงกับลายสกรีน เพราะอาจทำให้หมึกลอกหรือซีดได้ เวลาใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มไม่ควรราดลงบนเสื้อสกรีนโดยตรง

5. อย่าบิดผ้าแรง หรือปั่นแห้งแรงๆ

ถ้าซักมือ พยายามบีบน้ำออกเบาๆ หลีกเลี่ยงการบิดผ้าแรงๆ โดยเฉพาะตรงลายสกรีนเพราะเวลาโดนบิดจุดเดิมซ้ำๆ จะทำให้สีเริ่มคงทนน้อยลง

ถ้าใช้เครื่องซักผ้า อย่าปรับเป็นโหมดปั่นแห้งสูงสุด เพราะแรงเหวี่ยงทำให้ลายพิมพ์แตกหรือหลุดได้ เนื่องจากมีการเสียดสีระดับแรงเกิดขึ้น

นอกจากการซักผ้าแล้ว ยังต้องดูวิธีตากผ้าด้วย

วิธีตากที่ถูกต้อง ช่วยยืดอายุเสื้อสกรีนได้หลายระดับเลย

6. หลีกเลี่ยงแดดจัด

ควรตากเสื้อในที่ร่ม ลมโกรก หรือแดดอ่อนๆ เพราะแดดแรงเกินไปจะทำให้สีลายพิมพ์ซีดจางเร็ว โดยเฉพาะถ้าตากโดยนำด้านที่มีการสกรีนโดนกับแดดจังๆ ดังนั้นก่อนตากผ้า ควรกลับด้านในออกเวลาตาก เพื่อให้แดดไม่โดนตรงลายสกรีนเสื้อโดยตรง จะช่วยยืดอายุของเนื้อผ้า เส้นใยผ้า รวมถึงสีสกรีนได้

7. อย่าใช้เครื่องอบผ้า

เครื่องอบผ้าความร้อนสูงไม่เหมาะกับเสื้อสกรีน เพราะอาจทำให้หมึกละลาย และเวลาอบก็ใช้เวลาค่อนข้างนาน เท่ากับจะเจอความร้อนสูงนานเกินไป

ถ้าต้องใช้ ควรตั้งอุณหภูมิ “ต่ำสุด” หรือ “อบลมเย็น” (Air Dry) เลือกโหมดนี้ได้เลยเพราะจะช่วยให้การถนอมผ้ามีประสิทธิภาพ

พอตากผ้าเสร็จก็ถึงขั้นรีดเพื่อไม่ให้ยับ แม้ขั้นตอนรีดจะดูไม่เหมือนธรรมดา แต่ก็มีวิธีรีดเสื้อสกรีนอย่างปลอดภัย

ไม่ควรรีดตรงลายพิมพ์โดยตรงเด็ดขาด ความร้อนจากเตารีดจะทำให้หมึก DTF ละลายและลอกได้

ถ้าจำเป็นต้องรีด ให้ กลับเสื้อด้านในออก หรือวางผ้าบางๆ (ผ้าขาวบาง) ทับก่อนรีด

ใช้ไฟต่ำสุดในการรีด

วิธีเก็บรักษาเสื้อสกรีน

ไม่พับตรงลายพิมพ์ : ถ้าพับลายพิมพ์ทับกันบ่อยๆ อาจทำให้หมึกแตกลายได้ เพราะโดนพับในจุดเดิมเป็นประจำ ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการพับตรงลาย ไม่ควรพับในลิ้นชักนานๆ โดยเฉพาะในที่ร้อน

ถ้ามีไม้แขวนเสื้อ ควรแขวนเสื้อไว้

เก็บในที่แห้ง ไม่อับชื้น ป้องกันเชื้อราและกลิ่นอับที่ทำให้ต้องซักบ่อยเกินไป

เทคนิคพิเศษสำหรับการสกรีนเสื้อ DTF โดยเฉพาะ

เสื้อสกรีนระบบ DTF จะทนทานมากขึ้นถ้าดูแลตามนี้

หลีกเลี่ยงการซัก 24-48 ชั่วโมงแรกหลังรีดลายเสร็จ เพราะต้องรอสีสกรีนเซ็ตตัวอย่างสมบูรณ์รวมถึงกาวที่ใช้ในการพิมพ์ด้วย ถ้าเพิ่งได้รับเสื้อจากร้านสกรีนมาก็เว้นระยะก่อนซักจะดีที่สุด

ซักไม่เกิน 40 องศา เพราะการใช้น้ำที่ร้อนเกินไปในขั้นตอนการซักจะทำให้นอกจากเส้นใยผ้าจะไม่คงทนแล้ว สีสกรีนก็มีสิทธิ์แตกได้เช่นกัน

สรุปจากขั้นตอนทั้งหมดคือ

การดูแลเสื้อสกรีนให้คงทนไม่ใช่เรื่องยาก แค่เลือกวิธีซัก ตาก รีด และเก็บให้ถูกต้อง เสื้อสกรีนที่คุณรักก็จะใส่ได้ยาวนาน ช่วยลดระยะเวลาเพื่อให้สีไม่ซีด ลายไม่แตกในเร็ววัน ลองเอาวิธีพวกนี้ไปใช้ แล้วเสื้อสวยๆ จะอยู่กับคุณไปอีกนาน

Scroll to Top
LINE LOGO SVG สวัสดีครับ