
การพิมพ์ DTF (Direct to Film) ได้กลายเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในวงการสิ่งพิมพ์และเสื้อผ้า เพราะมีข้อดีหลายอย่าง ที่มาทดแทนเทคโนโลยีเก่า หากใครเคยเป็นช่างสกรีนสมัยก่อนจะทราบว่าเน้นใช้ระบบบล็อก ขั้นตอนจะยุ่งยากแต่เหมาะกับงานที่สีไม่เยอะ และลายไม่ได้ละเอียดนัก และการตัดสกรีนด้วยระบบเฟล็กซึ่งงานนั้นต้องอาศัยความละเอียดในการดึงแผ่นเฟล็กที่ไม่ต้องการใช้ออกมาจากภาพ เพื่อให้เหลือเฉพาะแผ่นเฟล็กที่ต้องการนำไปรีดกับเสื้อ นอกจากนั้นยังมีระบบอื่นๆ อีก ซึ่งแต่ละระบบก็จะมีข้อดีข้อเสียต่างกัน
ส่วนระบบ DTF นั้น ข้อดีที่นำโดดออกมาเลยคือ มีความความยืดหยุ่นสูงในการทำงาน เพราะสามารถนำแผ่นฟิล์มที่ปรินท์ไปรีดลงเสื้อได้เลย ไม่จำเป็นต้องแกะแผ่นออกทีละแผ่น และสามารถพิมพ์ได้หลากหลายสีไม่ต้องทำบล็อก นอกจากนั้นยังพิมพ์ได้บนเนื้อผ้าหลากหลายชนิดด้วย และคุณภาพการพิมพ์ที่โดดเด่น วันนี้เราจะพาไปเจาะลึกแนวโน้มใหม่ๆ ของ DTF ในปี 2025 พร้อมทั้งสำรวจนวัตกรรม เทคโนโลยีต่างๆ ที่อาจเข้ามาช่วยพัฒนาระบบได้ในอนาคต
ความละเอียดและความเร็วที่เพิ่มขึ้น
หนึ่งในการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นที่สุดสำหรับผู้ที่รับงาน DTF คือการเพิ่มประสิทธิภาพของหัวพิมพ์รุ่นใหม่ การเพิ่มข้อดีนั้นมีหลายข้อด้วยกัน เช่น งานละเอียดมากขึ้นกว่าเดิมที่ปกติก็ละเอียดมากๆ อยู่แล้ว หรือความเร็วในการปริน์ภาพลงแผ่นฟิล์มที่มีความเร็วมากกว่าเดิม (และละเอียดมากขึ้นด้วย) เครื่องพิมพ์ DTF ยุคใหม่สามารถพิมพ์งานละเอียดได้ถึง 1200 dpi หรือมากกว่านั้น
การเปรียบเทียบ DTF กับ DTG: ทางเลือกที่คุ้มค่ากว่า?
ในอดีต DTG เคยเป็นพระเอกในวงการพิมพ์เสื้อ ร้านเองก็เคยใช้ระบบ DTG มาก่อน เพราะสามารถพิมพ์งานได้คมชัดบนเสื้อผ้าโดยตรง แต่จะเน้นเสื้อสีขาวเพราะสามารถพิมพ์ลงผ้าได้ แต่ถ้าสีอื่น สีของหมึกจะไปผสมกับสีเนื้อผ้าทำให้ผิดเพี้ยนไป การพิมพ์ DTG เสื้อสีจึงมีขั้นตอนเพิ่มขึ้นเพราะต้องเตรียมน้ำยาลงบนเสื้อก่อนจะสกรีน มีความซับซ้อนมากขึ้น
แต่เมื่อเทียบกับ DTF แล้ว จะเห็นความแตกต่างหลายอย่าง DTF ไม่ต้องเตรียมผ้า แยกผ้าสีผ้าขาวเพราะขั้นตอนการทำงานเหมือนกัน ไม่ว่าจะผ้าเฉดสีอะไรก็ตาม ไม่ต้องลง pre-treatment และสามารถพิมพ์ลงบนผ้าหลากหลายชนิดได้ ต่างจากระบบ DTG ที่เน้นผ้าคอตตอน สำหรับระบบใหม่ DTF นั้นไม่ว่าจะเป็นผ้าคอตตอน โพลีเอสเตอร์ ผสม หรือแม้แต่ผ้าสีเข้มก็สามารถสกรีนได้ อีกทั้งยังมีความทนทานต่อการซักสูง ทำให้ DTF กลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับงานสกรีนในยุคปัจจุบัน

เทคโนโลยี UV DTF: บุกตลาดวัสดุแข็ง
หนึ่งในนวัตกรรมที่กำลังมาแรงคือ UV DTF ซึ่งเป็นการพิมพ์ฟิล์มที่ใช้แสง UV ช่วยเซ็ตตัวหมึก ทำให้สามารถติดลงบนพื้นผิวอื่นๆ นอกจากเสื้อผ้าได้ วัสดุที่มักนำมาสกรีนก็คือ แก้ว กระเบื้อง โลหะ หรือไม้ UV DTF ดังนั้นนอกจากจะสกรีนเสื้อผ้าแล้ว ยังสกรีนของใช้ต่างๆ ได้ด้วย ซึ่งสามารถนำไปทำเป็นงานตกแต่ง ของขวัญ และของที่ระลึกได้อย่างไร้ขีดจำกัด
ระบบอัตโนมัติและ AI: พลิกโฉมกระบวนการผลิต
ในช่วงปี 2025 บอกได้เลยว่าเป็นยุค AI ครองเมือง ดังนั้นตอนนี้จึงกำลังมีการพัฒนาเพื่อนำ AI มาช่วยตรวจสอบระบบการพิมพ์งาน และตรวจสอบคุณภาพแบบเรียลไทม์ โดยใช้ควบคู่กับคนสกรีนด้วย เพื่อที่จะได้ช่วยกันดูงานพิมพ์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุดสำหรับงานส่งมอบให้ลูกค้า
DTF ที่เป็นมากกว่าเสื้อยืด
DTF ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การพิมพ์เสื้อยืดอีกต่อไป เวลาบอกว่าจะสกรีนเสื้อ ทุกคนก็มักคิดถึงเสื้อยืดเสมอ เสื้อคอตตอนเป็นส่วนใหญ่ แต่ระบบ DTF นั้นสามารถพิมพ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าผ้า กางเกง หรือแม้กระทั่งเสื้อแจ็คเก็ต เพราะอะไรถึงสามารถพิมพ์ผ้าที่มีเนื้อแข็งได้ เพราะลายพิมพ์ DTF มีความยืดหยุ่นสูงมาก สามารถเกาะติดกับเนื้อผ้าได้โดยที่ภาพสกรีนไม่แตก สีสันสดใส และสามารถสร้างลวดลายซับซ้อนได้โดยไม่มีข้อจำกัดด้านสีหรือจำนวนชิ้นงาน
การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
อีกหนึ่งเทรนด์สำคัญในปี 2025 คือการพัฒนาเทคโนโลยี DTF ให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพราะการพิมพ์ระบบนี้จะต้องใช้ฟิล์ม ผงกาว หมึก แต่ละตัวอาจมีสารเคมีผสมอยู่ หลายผู้ผลิตหมึกพิมพ์หันมาใช้หมึกที่ปราศจากสารพิษ (non-toxic) หรือหมึกสูตรน้ำที่ปลอดภัย ลดการปล่อยสารระเหยอันตราย (VOC) สู่อากาศ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาฟิล์ม DTF แบบย่อยสลายได้ (รีไซเคิลได้นั่นเอง) ดังนั้นกระบวนการทั้งหมดจะทำให้ช่วยลดขยะพลาสติกในอุตสาหกรรมพิมพ์อีกด้วย ทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้นกว่าการพิมพ์ในระบบเดิม
ฟิล์ม DTF เอฟเฟกต์พิเศษ
นอกจากฟิล์มใสแบบธรรมดาที่ช่างสกรีนใช้พิมพ์ภาพกันแล้ว ตอนนี้ตลาดเริ่มมีฟิล์ม DTF แบบพิเศษ เช่น ฟิล์มเมทัลลิก ฟิล์มเงา ฟิล์มเรืองแสง และฟิล์มลายพิเศษ เช่น ลายหินอ่อน ลายกราฟฟิกต่างๆ หรือลายคาร์บอนไฟเบอร์ ฟิล์มเหล่านี้ช่วยให้สินค้าดูโดดเด่น มีมูลค่าและเอกลักษณ์เพิ่มขึ้น และตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการงานออกแบบเฉพาะตัวมากขึ้น แต่ปัจจุบันยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว ลูกค้าจะมีภาพลวดลายที่มีเอกลักษณ์มากันเองอยู่แล้ว ดังนั้นพิมพ์ใส่ฟิล์มใสธรรมดาจะดีที่สุด
ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ในปี 2025 เทคโนโลยีการพิมพ์ระบบ DTF เริ่มได้รับความสนใจแพร่หลายทั่ววงกว้าง ทั้งคนทำงานสกรีนและคนที่อยากสกรีน เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การพิมพ์งานสกรีนมีประสิทธิภาพมากขึ้น งานละเอียดมากขึ้นและยังมีแนวโน้มเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าแบบอื่น